ลดน้ำหนัก อาหารคีโตเจนิคหรือการเผาผลาญไขมันทุกชนิดมีวิธีใหม่ในการลดน้ำหนักโดยการเลือกไขมัน ตัวอย่างของสิ่งที่ยอมรับได้คือ ไอเอฟ หรือการอดอาหารเป็นระยะที่ระบุและยืนยันโดยเว็บไซต์ และจำกัดเวลาในการเล่นเกมคนที่มีเวลาเล่นเกมป้องกันตัวหรือเล่นเกมลดความอ้วน
จะลดน้ำหนัก จะศึกษา ไอเอฟ ตัวไหนก่อนตัดสินใจลดน้ำหนัก วันนี้ โว้คบิวตี้ จะมาให้ความรู้กับผู้ที่กำลังรอเวลาอดอาหารแต่สูงสุดคือ 8 ถึง 16 ชั่วโมง แต่ถ้า 8 ชั่วโมง อดอาหาร 16 ชั่วโมง ลำดับ ไอเอฟ จะรบกวนระดับอินซูลินขณะอดอาหาร พร้อมเพิ่มการเผาผลาญไขมันของร่างกาย โดยระดับ เอชจีเอช ตามหลักเมตาบอลิซึมจะถูกตรวจสอบสูงถึง 3.6 ถึง 14 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะทำให้ไขมันสะสมได้ไม่ดี
โดยเฉพาะรอบเอวโดยไม่ก่อให้เกิดการสะสมของกล้ามเนื้อที่รับน้ำหนักจากไขมัน วิธีที่ดีที่สุดคืออย่าอดอาหาร 16 ชั่วโมง แนะนำให้อดอาหาร 8 ชั่วโมงก่อนเริ่ม อีกทางหนึ่งคือแนะนำให้ผู้หญิงอดอาหาร 14 ชั่วโมงแล้วกินอีก 10 ชั่วโมงเพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวก่อน เลือกเวลาที่จะอดอาหารและเวลาที่จะกินได้อย่างสะดวกสบาย
วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีความสามารถ ถ้าร่างกายไปเกิดในที่เหล่านี้ไม่นานก็เลือกบำเพ็ญกุศลเพียง 5 ชั่วโมง และอดอาหาร 19 ชั่วโมง ลอริจำเป็นเพื่อให้ร่างกายสังเกตได้ตามปกติ วิธีแก้ปัญหานี้ไม่แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้น เพราะหากร่างกายส่วนอื่นปรับตัวไม่ดี 5-2 คือ กินปกติ 5 วัน และอด 2 วัน แต่ห้ามเกิน 2 วัน หรือมีเว้นช่วง
ส่วนวันที่อดอาหารก็เลือกทานได้ แต่กินน้อยลงประมาณ 1 ใน 4 ของแคล สำหรับผู้หญิงเรากินได้วันละ 600 แคล ส่วน 500 แคลกินตอนกลางคืน กินมื้อใหญ่ 1 มื้อต่อวัน หรืออดอาหาร 20 ชั่วโมง แล้วกินแค่ 4 ชั่วโมงเพื่อให้โปรตีนกับผักมี ซึ่งถือว่าดีมากในช่วงอดอาหาร ทั้งนี้ จะดื่มหรือเลือกเครื่องดื่มแคลอรีต่ำในช่วงอดอาหารหรือไม่อดก็ได้
สิ่งนี้ทำให้คุณเสี่ยงต่อปัญหาระบบทางเดินอาหาร อาจยังติดอยู่ในช่วง ไอเอฟ และอาจต้องเพิ่ม เพราะฉันไม่ได้ออกกำลัง โปรดจำไว้ว่าคลาสฝึกความแข็งแกร่งเหล่านี้เหมาะสำหรับทุกคน จะช่วยอธิบายถึงการใช้ชีวิตของผู้คนที่ขาดสารอาหารในอีก 18 ปีข้างหน้า ตลอดจนผู้ที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร มีสิทธิ์ในการลดน้ำหนักใดๆ มีผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม บางครั้งจะดีกว่า เช่น การวิจัย อย่าลืมยึดเวลาหรือใช้วิธีหักดิบเพื่อให้ร่างกายเกิดก่อนเพื่อป้องกันผลข้างเคียงของการลดน้ำหนักที่ไม่สำเร็จ
การกินพืชเพื่อสุขภาพเป็นเทรนด์ที่กำลังเติบโต นอกจากนี้ ใครๆ ก็บอกว่าอาหารจากพืชนั้นดีต่อเราและโลก วันนี้ โว้คบิวตี้ จึงอยากมาแนะนำอาหารชนิดนี้ให้รู้จักกันค่ะ การกินที่เน้นพืชเป็นหลักคืออะไร ดีต่อเราและโลกจริงหรือ เหมาะกับใคร การกินที่เน้นพืชเป็นหลักคือผัก ผลไม้ ธัญพืช ถั่วเป็นส่วนใหญ่แต่สำหรับบางคนอาจยังกินเนื้อสัตว์ได้เล็กน้อยไม่เกิน 5เปอร์เซ็นต์ ของจานนั้น
เนื่องจากกุญแจสำคัญในการรับประทานอาหารที่มีพืชเป็นส่วนประกอบหลักคือการหลีกเลี่ยงหรือลดปริมาณการบริโภคเนื้อสัตว์ให้น้อยที่สุด ความแตกต่างระหว่างอาหารมังสวิรัติคือ ไม่มีเนื้อสัตว์เลย ลักษณะ รสชาติ กลิ่น และเนื้อสัมผัสของเนื้อพืช หรือเนื้อเทียมที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร เพื่อสุขภาพนั้นคล้ายคลึงกับเนื้อสัตว์จริง
ส่วนผสมที่ใช้ทำเนื้อสัตว์จากพืชนี้มาจากผัก แป้ง พืชตระกูลถั่ว ธัญพืช และเห็ด และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์ อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์จากพืชบางชนิดอาจมีไข่และนมผสมอยู่บ้าง ทุกวันนี้ มีการผลิตเนื้อสัตว์จากพืชหลากหลายชนิด เพิ่มทางเลือกและความน่าสนใจให้กับอาหารจากพืชเนื้อกรอบเลียนแบบ
อาหารทะเลเทียม สเต็กเทียม ฯลฯ ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการบริโภคอาหารจากพืช มีเส้นใยอาหารมากจึงช่วย ลดน้ำหนัก ได้เป็นอย่างดี ไขมันและคอเลสเตอรอลก็ลดลงด้วย ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ฯลฯ
จากการรับประทานเนื้อสัตว์ ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยรักษาสมดุลของทรัพยากรธรรมชาติ ลดการทำลายสิ่งแวดล้อม หลายคนเชื่อว่าการเปลี่ยนจากอาหารที่มีเนื้อสัตว์เป็นอาหารที่มีพืชเป็นส่วนประกอบทำให้พวกเขาเสี่ยงต่อการขาดสารอาหาร ผลไม้ เห็ด ถั่ว และเมล็ดธัญพืชหลายชนิดให้พลังงาน โปรตีน ไขมันดี วิตามิน แร่ธาตุ และคาร์โบไฮเดรตเช่นเดียวกับเนื้อสัตว์
นอกจากนี้ยังดีต่อร่างกาย เราสามารถกินอาหารจากพืชได้ ทุกวันก็เหมือนกับการกินอาหารตามปกติของเรา เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยอย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีความกังวลเรื่องสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเพื่อรับประทานอาหารที่ดีต่อร่างกายของคุณ
การกินอาหารจากพืชเป็นเรื่องสนุก ยังดีต่อเราและโลกใบนี้อีกด้วย ปัจจุบันมีอาหารจากพืชสำเร็จรูปมากมายในซูเปอร์มาร์เก็ต สำหรับใครที่ต้องการฟื้นฟูสุขภาพด้วยการทานอาหารจากพืช เริ่มต้นด้วยการกินเนื้อสัตว์ให้น้อยลง จากนั้นเน้นรับประทานผัก ผลไม้ ธัญพืช และพืชตระกูลถั่วให้มากขึ้น ให้ร่างกายค่อยๆ ปรับตัว และอย่าให้อยากกินเนื้อสัตว์มากเกินไป
บทความที่น่าสนใจ : โรควัยชรา อธิบายข้อมูลสาเหตุโรคในวัยชราและวิธีในการป้องกันอย่างไร
